มันมีชุมชนกะเหรี่ยงโปว์ที่สุพรรณเขาแจ้งมาที่มหาวิทยาลัยว่าชุมชนพบปัญกล่าวหาแผงโซลาร์เซลล์ที่ไปติดให้ชุมชนนี่มีปัญหาใช้งานไม่เพียงพอ ทางมหาลัยก็เครียดเลยนะครับ คำนวณกระแสไฟฟ้าไปก็คงจะปานกลางนี่ แม้กระนั้นก็ไหนๆเขาขอมาก็ไปดูหน่อย
ชุมชนนี่อยู่บนภูเขา ทางเหี้ยสุดๆผมก็ขอติดรถยนต์บิดาไปด้วย ขึ้นไปนี่ใช้เวลานานมากมาย ทางเต็มไปด้วยหลุมบ่อและก็หินเทือกเขา
ในที่สุดไปถึง พบว่าปัญหามิได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากด้านเทคนิค แต่ว่าเกิดขึ้นมาจากว่าหมอปราบผี (และก็เป็นผู้ใหญ่บ้านด้วย โดยหมู่บ้านนี้จะเลือกผู้ใหญ่บ้านตามสายโลหิตหมอปราบผี) ใช้อำนาจความเป็นหัวหน้าทางด้านวัฒนธรรมเอาหม้อจำแลงกายเองไปชาร์จกระแสไฟฟ้ามากยิ่งกว่าคนอื่นๆแบบมากมายสัสๆด้วยเหตุว่าที่บ้านแกมีจานสำหรับมีไว้เพื่อรับสัญญาณดาวเทียม ตอนที่บ้านอื่นมีหลอดไฟฟ้าปกติ
ต่อนี้ไปหัวหน้าอย่าง อบต. (ซึ่งเป็น อบต. เนื่องจากจบการศึกษามากที่สุดในชุมชนละ) ก็ไม่กล้าห้าม เนื่องจากก็กลัวหมอปราบผี ตนเองจะมีอำนาจเมืองสูงขึ้นยิ่งกว่า
ท่านจะแก้ปัญหานี้ยังไง?
นี่ ปัญหาคลาสสิคเลย เทคโนโลยีสิ่งเดียวปรับแต่งมิได้ มีใจความสำคัญเชิงวัฒนธรรมด้วย ฟังมองก็คล้ายเมืองไทยในสเกลเล็ก คนนำทางวัฒนธรรมเอาผลตอบแทนของชุมชนไปใช้แบบเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น หัวหน้าที่มีอำนาจเมืองไม่กล้าจัดแจง
ใจความสำคัญชุมชนเล็กๆบนภูเขานี่พันพัวมากไม่น้อยเลยทีเดียว อบต. กลัว หมอปราบผีก็ไม่ใช่เพราะว่าอิทธิพลทางด้านการเมืองนะ กลัวเนื่องจากว่าเป็นหมอปราบผี