ข้ออ้างของผู้ชายที่ชอบยกมาเมื่อไม่อยากสวมถุงยาง

       ทุกคนที่ได้รับการศึกษามาคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าการxxxโดยไม่สวมถุงยางอนามัยนั้น นอกจากจะทำให้เกิดการตั้งครรภ์โดยก่อนเวลาแล้วยังเป็นการไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย ซึ่งผู้ชายบางคนถึงจะรู้อย่างนั้นแต่ก็ยังดื้อดึงที่จะไม่สวมถุงยางตอนxxxกันอยู่ดี ซึ่งถือว่าเป็นความเห็นแก่ตัวและไม่มีความรับผิดชอบต่อฝ่ายหญิงมาก ๆ เพราะทั้งนี้การคุมกำเนิดและป้องกันโรคนั้นไม่ใช้หน้าที่ของฝ่ายหญิงฝ่ายเดียว วันนี้ผมจึงจะพาสาว ๆ ไปรู้จักกับข้ออ้างยอดฮิตที่หนุ่ม ๆ ทั้งหลายมักจะใช้เวลาที่ตนไม่อยากสวมถุงยาง เพื่อที่สาว ๆ จะได้หาทางรับมือเวลาเจอข้ออ้างเหล่านี้ได้นะครับ

“ผมปลอดโรค ไว้ใจผมได้”

       ข้ออ้างที่ผู้ชายใช้บ่อยที่สุด จากผลสำรวจพอว่าผู้ชายกว่า 73.7 เปอร์เซ็นต์คิดว่าตัวเองนั้นปลอดโรค ซึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มักไม่แสดงอาการในผู้ชายดังนั้นถ้าไม่ตรวจสอบกับแพทย์ให้แน่นใจก็ไม่มีทางบอกได้หรอกว่าปลอดโรคจริงหรือเปล่า ดังนั้นจึงควรระวังเอาไว้ก่อนจะดีกว่าเพราะไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการรู้ว่าเราติดโรคมาจากแฟนตัวเองแน่ ทั้งนี้ไม่ได้มีแค่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เท่านั้นแต่การตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่พร้อมก็จะเกิดขึ้นได้ถ้าคุณไม่สวมถุงยางอนามัยอีกด้วย

“น่ารักจนอดใจไม่ไหวแล้ว ขอเถอะนะ”

       ในบรรดาผู้ชาย 73.3 เปอร์เซ็นต์นั้นเชื่อว่าการหยอดคำหวานหรือพูดหวาน ๆ เอาใจเสียหน่อยสาวก็จะยอมเอง ซึ่งนี่คือข้ออ้างที่อันตรายมากในเวลาที่ผู้ชายกลัดมันสุด ๆ จึงควรบอกปัดเสียแต่เนิ่น ๆ นอกจากนั้นฝ่ายหญิงยังป้องกันข้ออ้างนี้ได้ด้วยการพกถุงยางไว้ในกระเป๋าถือ หรือเก็บไว้ในโต๊ะ หัวเตียง หรือที่ใดที่สามารถไปหยิบมาได้ง่าย ๆ เพื่อจะได้สวนกลับได้เมื่อผู้ชายบอกว่าเสียเวลาหา

“ชอบแบบไม่ใส่มากกว่า”

       ประโยคเชย ๆ อย่างกับหลุดมาจากหนังในยุค 70 ที่ผู้ชายราว 50 เปอร์เซ็นต์ยังคงชอบใช้อยู่ แต่ดีหน่อยที่ผู้หญิงไม่ค่อยตกหลุมพรางนี้สักเท่าไหร่ เพราะจากผลสำรวจพบว่าผู้หญิงและผู้ชายต่างชอบการxxxแบบใส่ถุงและไม่ใส่ถุงเท่ากัน และฝ่ายหญิงยังถึงจุดสดยอดบ่อยกว่าถ้าใส่ถุงยางเพราะเธอไม่ต้องกังวลว่าจะติดโรคหรือตั้งท้องนั่นเอง ทั้งนี้ถ้าคุณผู้หญิงพอมีโอกาสก็ลองพาแฟนหนุ่มเข้าร้านสะดวกซื้อแล้วชวนเลือกถุงยางที่มีมากกมายหลายรูปแบบในปัจจุบันมาเพื่อเสริมรสชาติเวลาxxxกันดูได้นะครับ

“คืนนี้ขอไม่ใส่ถุงได้ไหม”

        ผู้ชายราว 40 เปอร์เซ็นต์มีการต่อรองกับฝ่ายหญิงตรง ๆ โดยหวังว่าจะเออออไปด้วย ซึ่งถ้าหากคุณยอมให้ครั้งนึงล่ะก็จะต้องมีครั้งต่อไปตามมา และอาจทำให้เขาคิดว่าคุณนั้นยังไงก็ได้ สิ่งที่ควรทำคือตอบกลับอย่างเด็ดขาดว่า ถ้าไม่ใส่ก็ไม่ต้องมีอะไรกัน เพื่อให้อีกฝ่ายเห็นถึงความแน่วแน่ของคุณคุฯจึงต้องยืนกรานว่า ไม่ ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด

“ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอ”

       ประโยคดราม่าที่ผู้ชายกว่า 34 เปอร์เซ็นต์ชอบใช้กัน เพราะเขาอาจฉุนเฉียวที่ฝ่ายหญิงยืนกรานให้ใส่ถุง บางคนถึงขั้นอยากลองของ ซึ่งอธิบายไม่ได้ว่าเป็นเพราะเขา แต่นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของทั้งผู้ชายและผู้หญิงอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงควรยืนกรานอย่างหนักแน่น เพราะเซ็กที่ดีและปลอดภัยคือเซ็กส์ที่คู่รักเห็นพ้องต้องกันอย่างไม่มีข้อยกเว้น ถ้าเขายังดื้อดึงอยู่อย่างนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่สาว ๆ จะต้องแคร์และเขี่ยเขาทิ้งไปซะ